เหล็ก H beam – I beam – Wide flange เหมาะกับงานประเภทไหน?

นับได้ว่าเหล็กถือเป็นวัสดุที่นิยมใช้เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับโครงสร้างหลักภายในบ้านและอาคาร รวมถึงใช้ในระบบอุตสาหกรรมต่างๆ ในโรงงาน โดยในปัจจุบันได้มีการออกแบบเหล็กรูปแบบต่างๆ ให้เหมาะสมกับการใช้งานที่เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น
ซึ่งหากเราลองไปเดินดูโรงงานผลิตเหล็ก หรือร้านจำหน่ายเหล็ก ก็คงจะมีคำถามเกิดขึ้นในหัวมากมายเกี่ยวกับรูปแบบและลักษณะการใช้งานที่จำเพาะ

ในบทความนี้ จะมาอธิบายความแตกต่างของเหล็ก เหล็ก H beam, I beam และ wide flange ที่มีความเหมาะสมต่อการใช้งานตามทฤษฎีโครงสร้าง
เนื่องจากเหล็กประเภทนี้มีแกนตรงกลาง ที่มีความเหมาะสมต่อรับน้ำหนัก อีกทั้งรูปแบบหน้าตัดนี้ ยังช่วยประหยัดทรัพยากรที่เกินกว่าความจำเป็นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

เหล็ก H beam I beam และ wide flange เป็นเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน ที่เกิดจากการหลอมเหล็กด้วยความร้อนจนละลาย จากนั้นจึงหล่อให้เป็นแท่ง แล้วทำการรีดให้เหล็กมีรูปร่างลักษณะที่เราต้องการ ซึ่งความแตกต่างของรูปร่างและการใช้งานนั้น มีรายละเอียดดังนี้

1. เหล็ก H beam

เกิดจากการรีดเหล็กให้มีหน้าตัดคล้ายตัว H ปีกของเหล็กมีความเรียบหนาเท่ากันตลอด ไม่มีการปาดหรือลบมุมที่ปลายปีก
การนำไปใช้ : เหมาะสำหรับใช้เป็นโครงสร้างคาน เสาและโครงหลังคา ของบ้าน อาคาร โรงงาน สนามกีฬา ฯลฯ

2. เหล็ก I beam

เกิดจากการรีดเหล็กให้มีหน้าตัดคล้ายตัว I โดยปีกทั้งบนและล่างของเหล็กจะมีความลาดเอียง มีการปาดหรือลบมุมที่ปลายปีกของเหล็กให้เป็นมุมมน
การนำไปใช้ : เหมาะสำหรับใช้ในระบบอุตสาหกรรม เช่น รางเครน เนื่องมาจากความหนาของ Flange ปีกที่ยื่นออกมามาก และมีลักษณะปลายที่เรียว ไม่เหมือนกับเหล็ก H beam ที่มีความหนาของ Flange เท่ากันตลอด ส่งผลให้โดยทั่วไปเหล็ก I beam จะสามารถรับแรงกระแทกได้ดี แต่ก็จะมีน้ำหนักที่มากกว่าเหล็ก H Beam ในขณะที่หน้าตัดเท่ากัน

3. เหล็ก wide flange

เหล็กชนิดนี้เป็นชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งของเหล็ก H beam ซึ่งเป็นการจำแนกชื่อเรียกตามมาตรฐานของ ASTM (American society for testing and meterials) รูปร่างและการใช้งานจึงเหมือนกันกับเหล็ก H beam ทุกประการ

จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้ว่าเหล็กประเภทดังกล่าวมีรูปแบบและลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างชิ้นเชิง หากเรานำเหล็กที่ผิดจากหลักการใช้งาน มาใช้ในส่วนที่เราต้องการ อาจทำให้การรับน้ำหนักของโครงสร้างไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตตามมาได้ ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการใช้งานควรปรึกษาวิศวกรหรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญให้ดีก่อน ซึ่งนอกจากจะได้ความสบายใจในการเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งานแล้ว ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยต่อชีวิตของเราได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ให้มืออาชีพช่วยคุณ

ติดต่อรับคำปรึกษาหรือ ติดตามข้อมูลที่มีประโยชน์จาก FIRM


Leave a Reply