“ หากร่างกายป่วยเป็นโรค ก็ต้องตรวจ และรักษา จะหนักจะเบาก็ว่ากันตามอาการ แต่จะดีกว่าไหม หากเราสามารถรู้ล่วงหน้า และหาทางป้องกันโรคก่อนได้... บ้านเองก็เช่นกัน ”

บทความนี้ไม่ใช่บทความสุขภาพ แต่เรากำลังจะบอกว่าบ้านที่เราอยู่อาศัย ก็ไม่ต่างอะไรกับร่างกายของเรา ย่อมต้องมีความเสื่อมสภาพตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น ปกติคนที่รัก และดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ก็จะมีการตรวจสุขภาพประจำปีอยู่แล้ว เพื่อที่จะได้รู้ว่าระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆ มีสถานะเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนไหนเริ่มมีปัญหา ส่วนไหนมีโอกาสเสี่ยงจะเกิดโรค จะได้หาทางป้องกัน และรักษาอย่างทันท่วงที เราปฏิบัติเช่นไรกับร่างกายที่เรารัก เราก็ควรปฏิบัติเช่นนั้น กับบ้านที่เรารักด้วย

การตรวจสุขภาพบ้านประจำปี มีหลักการ เหตุผล และความสำคัญ เช่นเดียวกันกับการตรวจสุขภาพ(ร่างกาย)ประจำปีของเรา นั่นก็คือเพื่อตรวจสอบการทำงานของระบบต่างๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้าง ไฟฟ้า ประปา สุขาภิบาล ป้องกันปลวก ป้องกันขโมย หรือระบบอื่นๆ ที่มีในบ้าน ที่เราต้องการทราบประสิทธิภาพในการทำงานในปัจจุบัน เพื่อดูว่าระบบต่างๆ นั้น ยังแข็งแรง ใช้งานได้ตามมาตรฐาน หรือชำรุดแล้ว ต้องมีการแก้ไข แม้กระทั่งตรวจสอบเพื่อหาสัญญาณบ่งบอกของความชำรุด ความบกพร่อง ความผิดปกติที่เกิดขึ้น เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งก็คือวิศวกรโครงสร้าง และวิศวกรระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบ้านพักอาศัย วิเคราะห์ปัญหา หาสาเหตุ ประเมินระดับความรุนแรงของปัญหา เพื่อหาวิธีการซ่อมบำรุง หรือรักษาให้ระบบต่างๆ ภายในบ้านคงประสิทธิภาพตามหน้าที่การใช้งาน เป็นบ้านที่คงความสุขภาพดีคู่กับเราซึ่งเป็นผู้อยู่อาศัยต่อไป

การตรวจสุขภาพบ้านประจำปี ทำให้เราซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน หรือผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน ได้ทราบถึงความเสื่อมของระบบต่างๆ ภายในบ้านที่เกิดมาจากการอายุของบ้าน และการใช้งานของผู้อยู่อาศัย ทราบถึงปัญหาได้ทันท่วงที และสามารถแก้ไขได้ก่อนที่ปัญหาจะลุกลามบานปลายเป็นปัญหาใหญ่ รับทราบถึงสาเหตุ และความรุนแรงของปัญหาโดยการวิเคราะห์ และประเมินหมอบ้านผู้เชี่ยวชาญ(วิศวกร) ทำให้สามารถจัดการปัญหาได้ที่ต้นเหตุ ช่วยแก้ปัญหาได้ในระยะยาว เป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายทางหนึ่ง เพราะว่าบางปัญหาหากเกิดขึ้นแล้ว การแก้ไขอาจไม่ใช่เรื่องง่ายๆ งบประมาณบางทีก็บานปลาย แก้ไขส่วนนี้ แล้วลามไปส่วนอื่นๆ อีก วุ่นวาย ใหญ่โต เสียหายมหาศาล แต่ถ้ารู้สัญญาณของปัญหาก่อน บางปัญหาอาจเกิดจากแค่พฤติกรรมการใช้งานที่ไม่เหมาะสม ไม่ใช่ความเสื่อมของตัววัสดุเสียทั้งหมด เมื่อวิศวกรก็จะแนะนำการปรับพฤติกรรม เพื่อที่จะได้ไม่ลุกลามเป็นปัญหาใหญ่ เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ก็สมมติว่าเราเป็นคนดื่มเหล้าหนัก แล้วไปตรวจสุขภาพประจำปี ผลตรวจออกมาว่าตับเริ่มไม่ค่อยดี หมอก็จะบอกให้เราเปลี่ยนพฤติกรรม ลดการดื่มเหล้า ไม่ใช่เปลี่ยนตับ(แต่ถ้ายังไม่เชื่อหมอ อาจต้องเปลี่ยนตับใหม่กันจริงๆ นะ อิอิ) นั่นคือเพราะเราดื่มเหล้า ตับเลยไม่ดี ไม่ใช่ว่าตับมันเสื่อมของมันเอง เป็นต้น

การตรวจสุขภาพบ้านประจำปี ควรได้รับการตรวจโดยหมอบ้านผู้เชี่ยวชาญ(วิศวกร) เพราะเป็นผู้รู้หลักการ ทฤษฎี และการทำงานของระบบต่างๆ อย่างลึกซึ้ง(ไม่เอาแบบครูพักลักจำ) ถึงจะได้ผลการตรวจสอบที่ถูกต้อง แม่นยำ และแนะนำวิธีการแก้ไข รวมถึงการป้องกันได้อย่างเหมาะสม และประหยัดค่าใช้จ่ายได้ ซึ่งหมอบ้านเอง(ต่อไปขอเรียก”วิศวกร”แล้วกันนะ)ก็จะมีหลายสาขา และความเชี่ยวชาญต่างกัน ได้แก่ วิศวกรโยธา จะเชี่ยวชาญเรื่องระบบโครงสร้าง และสถาปัตยกรรม, วิศวกรระบบไฟฟ้า เชี่ยวชาญเรื่องไฟฟ้า และวิศวกรระบบประปา ก็จะเชี่ยวชาญระบบประปา และสุขาภิบาล และหากบ้านไหนมีระบบแอร์ที่มีความซับซ้อน หรือมีระบบลิฟท์ ก็ควรมีวิศวกรเครื่องกลร่วมด้วย เป็นต้น การเลือกใช้บริการ ควรเลือกอย่างเหมาะสมจากหน่วยงาน/บริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ มีความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ในการตรวจสอบบ้านพักอาศัย ให้ได้ “วิศวกรผู้เชี่ยวชาญ” ตัวจริง ไม่ใช่เอา “วิศวกะ”มาตรวจ

บ้านก็เหมือนกับร่างกายของเรา นานวันเข้า อายุเยอะขึ้นก็มีความเสื่อมบ้าง ใช้งานผิดประเภท ผิดจังหวะ ก็มีอาการบาดเจ็บได้ หรือมีพฤติกรรมการใช้งานที่ไม่เหมาะสมก็สามารถสะสมปัญหาจนเกิดความผิดปกติได้ เพราะว่าเรารักร่างกาย ร่างกายคือชีวิต เราจึงไปหาหมอ เพื่อตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อหาสาเหตุ แก้ไข และป้องกันความผิดปกติของร่างกายให้ตรงจุด ไม่ต้องการให้ปัญหาบานปลายอย่างทันท่วงที หากเราคิดว่าบ้านก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต หากเรารักบ้านของเราเช่นเดียวกันกับร่างกาย เราก็ควรให้หมอบ้าน(วิศวกร) ที่มีความรู้ ความสามารถ และเชี่ยวชาญ มาตรวจสุขภาพบ้านประจำปี ให้บ้านของเรา บ้านที่เรารัก เช่นเดียวกัน

ให้มืออาชีพช่วยคุณ

ติดต่อรับคำปรึกษาหรือ ติดตามข้อมูลที่มีประโยชน์จาก FIRM


Leave a Reply