ห้องนี้ใช้แอร์กี่บีทียูดี (BTU) ?

หลายคนอาจจะเคยสงสัยนะครับว่าห้องเราควรใช้ แอร์หรือเครื่องปรับอากาศขนาดกี่บีทียู ดีถึงจะเหมาะสม ??

ถ้าน้อยเกิน …

ก็กลัวห้องสุดรักของเราจะไม่เย็น คอมเพรสเซอร์ทำงานหนัก เปลืองค่าไฟ และแอร์พังเร็วกว่าที่ควร

แต่ถ้ามากเกินไปละ ก็คงจะดีนะ ?

.. แต่เปล่าเลย แต่จะทำให้รู้สึกไม่สบายตัวจากความชื้นในห้องที่สูง นอกจากนั้น คอมเพรสเซอร์จะทำงานตัดบ่อยเกินไป ทำให้ประสิทธิ์ภาพในการทำงานลดน้อยลง

เพราะแบบนี้แหละเราจึงต้องเลือกขนาดเครื่องปรับอากาศ หรือแอร์ให้เหมาะสมกับห้องของเรา

โดย BTU หรือ British Thermal Unit คือหน่วยวัดปริมาณการถ่ายเทความร้อนทำให้น้ำ 1 ปอนด์อุณหภูมิเปลี่ยนไป 1 องศาฟาเรนไฮด์ แต่ในเครื่องปรับอากาศหรือแอร์ บีทียู ที่เราๆเข้าใจนั้นคือหน่วยของความสามารถในการถ่ายเทความร้อนออกจากห้องต่อหนึ่งชั่วโมง

เช่น เครื่องปรับอากาศ 18,000 บีทียู (หรือ บีทียูต่อชั่วโมง) หมายความว่าเครื่องปรับอากาศตัวนี้สามารถถ่ายเทความร้อนออกจากห้องได้ 18,000 บีทียูในหนึ่งชั่วโมงนั้นเอง ส่วนในการพิจรณาว่าห้องแต่ละห้องควรใช้แอร์ขนาดเท่าไหร่นั้นสำหรับบ้านพักอาศัยทั่ว ๆไป สามารพิจรณาเบื่องต้น แบบง่ายๆตามพื้นที่ใช้สอย และวัตถุประสงคารใช้งานของห้องได้ครับ โดยนำขนาดห้อง( กว้างxยาว ) มาคูณกับ ปริมาณบีทียูต่อตารางเมตรข้างต้นได้

700 – 800 บีทียูต่อตารางเมตร

  • สำหรับห้องนอน หรือห้องที่มีความร้อนน้อย (ห้องที่ไม่โดนแดดหรือโดนเล็กน้อย ฝ้าต่ำ หรือห้องที่ใช้แอร์ช่วงกลางคืน)

800 – 900 บีทียูต่อตารางเมตร

  • สำหรับห้องรับแขก หรือห้องที่มีความร้อนปานกลาง – มาก (ห้องที่โดนแดด อยู่ทิศตะวันตก หรือใช้แอร์ช่วงกลางวัน)

900 – 1000 บีทียูต่อตารางเมตร

  • สำหรับห้องทำงาน ห้องออกกำลังกาย หรือห้องที่มีความร้อนมาก หรือฝ้าสูง(ห้องที่โดนแดด อยู่ทิศตะวันตก อยู่ชั้นบนสุด หรือใช้แอร์ช่วงกลางวัน)

เช่น เครื่องปรับอากาศ 18,000 บีทียู (หรือ บีทียูต่อชั่วโมง) หมายความว่าเครื่องปรับอากาศตัวนี้สามารถถ่ายเทความร้อนออกจากห้องได้ 18,000 บีทียูในหนึ่งชั่วโมงนั้นเอง ส่วนในการพิจรณาว่าห้องแต่ละห้องควรใช้แอร์ขนาดเท่าไหร่นั้นสำหรับบ้านพักอาศัยทั่ว ๆไป สามารพิจรณาเบื่องต้น แบบง่ายๆตามพื้นที่ใช้สอย และวัตถุประสงคารใช้งานของห้องได้ครับ โดยนำขนาดห้อง( กว้างxยาว ) มาคูณกับ ปริมาณบีทียูต่อตารางเมตรข้างต้นได้

ส่วนถ้าต้องการพิจารณาแบบละเอียดถี่ถ้วน อาจจะต้องพิจารณาจากหลายองประกอบ เช่น

  • ขนาดห้อง
  • วัตถุประสงค์การใช้งานของห้อง
  • ทิศทาง หรือที่ตั้งของห้อง
  • ความสูงของห้อง
  • จำนวนคนที่ใช้ห้อง
  • ขนาดของช่องเปิด ประตู หน้าต่าง และพื้นที่กระจก
  • เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆในห้อง
  • ฯลฯ


.. ซึ่งจะขอนำเสนอในโอกาศถัดไปนะครับ

ให้มืออาชีพช่วยคุณ

ติดต่อรับคำปรึกษาหรือ ติดตามข้อมูลที่มีประโยชน์จาก FIRM


Leave a Reply