ตำแหน่งของห้องพระที่เหมาะสม

ประเทศไทยมีจำนวนประชากรที่นับถือศาสนาพุทธอยู่เป็นจำนวนมาก วัฒนธรรมด้านพุทธศาสนาซึ่งถูกสืบทอดมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ ไม่ว่าจะเป็น การทำบุญตักบาตร การไหว้พระสวดมนต์ การเข้าวัดฟังเทศน์ ฯลฯ แต่ด้วยปัจจุบันชีวิตกลับมีอะไรให้ทำเยอะมากขึ้น เวลาจึงเป็นสิ่งสำคัญซึ่งส่วนใหญ่มักถูกใช้ไปกับการทำงาน การกินเลี้ยงสังสรรค์ มากกว่าการเข้าวัดทำบุญเฉกเช่นดั่งคนสมัยก่อน จึงมีการนำพระมาตั้งบูชาที่บ้าน เรื่องการเข้าถึงศาสนาจึงสามารถทำได้ง่าย สามารถสงบจรดสติสมาธิได้ทุกวัน

แต่เนื่องจากพระเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพบูชาของเรา จึงไม่สามารถวางพระที่ไหนก็ได้ ควรที่จะหาตำแหน่งและทิศทางเหมาะสมมากที่สุด โดยบทความนี้จะมาชวนค้นหาตำแหน่งของการติดตั้งหิ้งพระบูชาที่ถูกต้อง มาดูกันว่าจะมีวิธีการดูยังไงบ้าง

การเลือกห้องพระ

แนะนำให้จัดตั้งห้องพระให้อยู่ที่ชั้นบนสุดของบ้าน เนื่องจากพระ คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ควรข้ามหรือเหยียบย่ำ ควรอยู่ในห้องหรือมุมที่มีความสงบที่สุด
ไม่แนะนำห้องพระให้อยู่ใกล้ห้องครัว หรือห้องนั่งเล่น ซึ่งจัดไว้เป็นห้องเพื่อความบันเทิง เพราะมีความวุ่นวายและเสียงดังตลอดเวลา
หากจัดให้ห้องพระอยู่ใกล้ห้องนอน ควรพิจารณาการจัดวางตำแหน่งของเตียงนอนให้ดี โดยไม่นำปลายเตียงหันไปทางห้องพระ และไม่หันหัวเตียงติดห้องพระ เพราะตามหลักฮวงจุ้ย ห้องพระถือเป็นพลังงานธาตุไฟ เมื่อเรานอนหัวติดชิดห้องพระ อาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวได้
ไม่แนะนำห้องพระอยู่ใกล้กับห้องน้ำ เพราะห้องน้ำคือสถานที่ๆ มีความสกปรก อีกทั้งตามหลักฮวงจุ้ย ห้องน้ำเป็นแหล่งรวมพลังธาตุน้ำ และห้องพระเป็นแหล่งรวมพลังงานธาตุไฟ อาจทำให้เกิดพลังงานที่ไม่เหมาะสมได้ หากจำเป็นต้องอยู่บริเวณนั้น แนะนำให้มีตู้หรือสิ่งของมากั้นก่อน

การจัดตั้งหิ้งพระ

แนะนำให้หันหน้าหิ้งพระออกไปด้านนอกของบ้าน เชื่อกันว่าสิ่งศักดิ์จะปกป้องคุ้มครองสิ่งที่ไม่ดีที่จะเข้ามาในบ้านได้
หากเป็นไปได้ แนะนำให้จัดวางหิ้งพระบริเวณศูนย์กลางของบ้าน เพราะจะเป็นสิ่งหลอมรวมพลังงานดีๆ ให้กับผู้อยู่อาศัย
หิ้งพระไม่ควรอยู่ใต้คาน หรือใต้บันได เพราะเป็นตำแหน่งที่ผู้คนเดินเหยียบย่ำได้

เพียงเท่านี้ เราก็สามารถนำข้อมูลไปเลือกจัดวางตำแหน่งของห้องพระภายในบ้านของเรา ให้เหมาะสมได้ ให้ชีวิตได้มีมุมสงบและผ่อนคลาย เพื่อเสริมสร้างกำลังของจิตใจให้เข้มแข็ง สามารถต่อสู้อุปสรรคต่างๆ ในแต่ละวันไปได้อย่างมีสติมากที่สุด