บ้านที่มีการอยู่อาศัย ย่อมมีการทำให้เกิดของเสีย เป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะน้ำเสีย น้ำทิ้งที่เกิดจากการชำระล้างต่างๆ ซึ่งโดยปกติในแบบก่อสร้าง สถาปนิกจะออกแบบแนวทางระบายน้ำออกจากบ้านไว้ให้อยู่แล้ว แต่ปัญหาคือเมื่อแนวท่อระบายน้ำนั้นเดินทางมาถึงริมรั้วเขตที่ดินของบ้าน แล้วไปต่อเชื่อมกับระบบระบายน้ำสาธารณะนั้น จุดนี้เราทำได้เลยหรือไม่? หรือต้องขออนุญาตใคร? มาไขข้อข้องใจไปพร้อมกันเลย

เรามาดูกฎหมายกัน…

พระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2549

มาตรา 39/1 ห้ามมิให้ผู้ใดระบายน้ำลงในเขตทางหลวงอันอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทาง หลวง เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้อำนวยการทางหลวงหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้อ้านวยการทางหลวงในการอนุญาต ผู้อำนวยการทางหลวงหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการทางหลวงจะกำหนด เงื่อนไขอย่างใดก็ได้

การอนุญาตตามวรรคหนึ่ง เมื่อมีความจำเป็นแก่งานทาง หรือเมื่อปรากฏว่าผู้ได้รับอนุญาตได้ กระทำผิดเงื่อนไขที่กำหนดในการอนุญาต ผู้อำนวยการทางหลวงหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการทางหลวงจะเพิกถอนเสียก็ได้

การระบายน้ำที่กระทำโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดผู้อำนวยการทาง หลวงหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการทางหลวง มีอำนาจสั่งให้ผู้กระทำการดังกล่าว งดเว้นระบายน้ำลงในเขตทางหลวงทันที หรือให้รื้อถอน หรือปิดกั้นทางระบายน้ำภายในเวลาอันสมควร ถ้าไม่ปฏิบัติตาม ผู้อำนวยการทางหลวงหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการทางหลวง มีอำนาจรื้อถอนหรือปิดกั้นทางระบายน้ำดังกล่าวได้ โดยผู้นั้นจะเรียกร้องค่าเสียหายไม่ได้และต้องเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายในการนั้น

ประเภทของอาคารที่อยู่ในเกณฑ์ต้องได้รับหนังสืออนุญาตระบายน้ำทิ้ง / เชื่อมท่อระบายน้ำก่อนดำเนินการ ประกอบด้วย

  1. อาคารชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด
  2. โรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม
  3. สถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
  4. สถานบริการว่าด้วยกฎหมายสถานบริการ ประเภทสถานอาบน้ำ นวดหรืออบตัว ซึ่งมีผู้บริการให้แก่ลูกค้า
  5. ตลาดตามกฎหมายว่าด้วยสาธารณสุข
  6. อาคารที่สร้างขึ้นในที่ดินของผู้ที่ได้รับอนุญาตให้จัดสรรที่ดินตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุม การจัดสรรที่ดิน
  7. อาคารที่ประกอบกิจการเป็นร้านอาหาร
  8. ศูนย์การค้า หรือห้างสรรพสินค้า ที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 2,000 ตารางเมตรขึ้นไป
  9. สถานการศึกษา ที่มีพื้นที่อาคารตั้งแต่ 2,000 ตารางเมตรขึ้นไป
  10. หอพักตามกฎหมายว่าด้วยหอพัก ที่มีจำนวนตั้งแต่ 10 ห้องขึ้นไป
  11. สะพานปลาตามกฎหมายว่าด้วยการจัดระเบียบกิจการแพปลา
  12. อาคารอื่นใดที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกำหนด โดยทำเป็นประกาศกรุงเทพมหานคร

เงื่อนไข

  1. ห้ามมิให้ผู้ใดระบายน้ำเสีย หรือน้ำโสโครกลงหรือไหลไปสู่แหล่งระบายน้ำ
  2. ห้ามมิให้ผู้ใดระบายน้ำทิ้ง ลงหรือไหลไปสู่แหล่งระบายน้ำ เว้นแต่เจ้าของหรือผู้ครอบครอง
    อาคารจะได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้ที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมอบหมาย
  3. อาคารที่จะขออนุญาตระบายน้ำทิ้งจะต้องมีระบบบำบัดน้ำเสียเพื่อปรับปรุงน้ำเสียให้ได้
    มาตรฐานน้ำทิ้งตามที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกำหนด
  4. หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาต ให้เป็นไปตามที่ผู้ว่าราชการ
    กรุงเทพมหานคร
  5. ต้องไม่ให้กีดขวางต่อการสัญจรผ่านของประชาชน และต้องไม่เกิดความเสียหายแก่ถนน ทาง หลวง หรือทรัพย์สินของผู้อื่น
  6. เมื่อการนั้นแล้วเสร็จหรือต้องเลิกถอนด้วยเหตุใดก็ตาม ต้องทำสถานที่นั้นให้ปกติดังของเดิม ทุกประการ
  7. เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นสมควรจะให้เปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขการนั้นอย่างใดต้องกระทำตาม
  8. เมื่อกรุงเทพมหานครต้องเสียหายไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม ผู้ได้รับอนุญาตต้องชดใช้ค่าเสียหาย ให้แก่กรุงเทพมหานครทั้งสิ้น
  9. เมื่อผู้ได้รับอนุญาตปฏิบัติผิดจากข้อกำหนดตามเงื่อนไขในหนังสืออนุญาต หรือไม่ปฏิบัติตาม ข้อบังคับนี้ กรุงเทพมหานครจะยกเลิกหนังสืออนุญาตนั้น และไม่คืนเงินค่าใช้สถานที่สาธารณะให้
  10. หนังสืออนุญาตใช้เฉพาะกิจการที่ขออนุญาตและมีกำหนดเวลาตามหนังสืออนุญาตเท่านั้น
  11. ผู้ขออนุญาตจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบการกระทำในกิจการที่ขออนุญาตนั้นทุกประการ จะอ้างบุคคลอื่นเป็นผู้รับผิดชอบแทนไม่ได้
  12. เมื่อกรุงเทพมหานครจะให้ยกเลิกกิจการที่ได้รับอนุญาตด้วยเหตุใดก็ตามผู้ได้รับอนุญาตจะ เลิกกิจการที่ได้รับอนุญาตทันที โดยไม่เรียกร้องค่าเสียหายอย่างหนึ่งอย่างใด อีกทั้งจะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับทุกประการ
  13. ผู้ขออนุญาตยินยอมชำระเงินตามระเบียบกรุงเทพมหานครทุกประการ

พระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 มาตรา 10 ผู้อนุญาตต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาที่ระบุไว้ และแจ้งให้ผู้ยื่นคำขอทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่พิจารณาแล้วเสร็จ

หมายเหตุ

  1. ขั้นตอนการดำเนินงาน จะเริ่มนับระยะเวลาตั้งแต่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารครบถ้วนตามที่ระบุไว้เรียบร้อยแล้ว
  2. กรณีคำขอหรือเอกสารหลักฐานไม่ครบถ้วน/หรือมีความบกพร่องไม่สมบูรณ์ เป็นเหตุไม่ให้ สามารถพิจารณาได้ เจ้าหน้าที่จะจัดทำบันทึกความบกพร่องของรายการเอกสารหรือเอกสารหลักฐานที่ยื่นเพิ่มเติม โดยผู้ยื่นคำขอจะต้องดำเนินการแก้ไข และ/หรือยื่นเอกสารเพิ่มเติมภายในระยะเวลากำหนดในบันทึกดังกล่าว มิเช่นนั้นจะถือว่าผู้ยื่นคำขอละทิ้งคำขอ โดยเจ้าหน้าที่และผู้ยื่นคำขอหรือผู้ได้รับมอบอำนาจจะลงนาม บันทึกดังกล่าว และจะมอบสำเนาบันทึกความบกพร่องดังกล่าวให้ผู้ยื่นคำขอหรือผู้ได้รับมอบอำนาจไว้เป็น หลักฐาน
  3. เจ้าหน้าที่จะแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ยื่นคำขอทราบภายใน 7 วัน นับแต่วันที่พิจารณาแล้วเสร็จ ตามมาตรา 10 แห่ง พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ.2558

แม้จะยาวหน่อย แต่ก็ถือว่าเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์นะครับ เป็นอย่างไรกันบ้าง อ่านแล้วรู้หรือยังว่าอาคารของเราเข้าข่ายข้อหนึ่งข้อใดของกฎหมายหรือไม่ โดยสรุปก็คือ บ้านพักอาศัยทั่วไป ไม่ใช่อาคารสาธารณะ หรืออาคารพานิชย์ที่เข้าข่ายข้อกำหนดข้างต้น สามารถทำการต่อท่อระบายน้ำสาธารณะได้เลย แต่หากอาคารของเราเข้าข่ายก็ให้ดำเนินการยื่นคำร้องขอเชื่อมต่อท่อสาธารณะได้ที่สำนักโยธา หน่วยงานท้องที่ที่ทำการก่อสร้างได้เลย หรือหากสงสัยก็เข้าไปสอบถามรายละเอียดกันก่อนที่เขตนั้นๆ ได้เลยนะครับ

ให้มืออาชีพช่วยคุณ

ติดต่อรับคำปรึกษาหรือ ติดตามข้อมูลที่มีประโยชน์จาก FIRM


Leave a Reply