ในเมื่อธนาคารต้องการสัญญา นั่นหมายความว่า เราต้องทำสัญญากับผู้รับเหมาก่อน และเมื่อทำสัญญาแล้ว ก็ต้องจ่ายเงินมัดจำ เพื่อเป็นพยานในการทำให้สัญญานั้นสมบูรณ์ ซึ่งเงินส่วนนี้อาจจะเป็นเงินจำนวนไม่น้อย และที่สำคัญ ต้องเป็นเงินส่วนตัวด้วย(ยังไม่ได้กู้ธนาคาร) จากนั้นจะนำสัญญาที่สมบูรณ์นี้ไปเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการกู้เงิน เพื่อแสดงให้ธนาคารเห็นว่า เรากู้เงินมาสร้างบ้านจริงๆ ไม่ได้เพื่อจุดประสงค์อื่น ถ้ากู้ผ่าน ได้เงินมา ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ถ้าไม่ผ่านล่ะ จะทำอย่างไร แน่นอนว่าไม่มีเงินสร้างบ้านแน่ๆ แล้วยังจะเงินที่จ่ายมัดจำไปด้วย จะได้คืนไหม? ทำอย่างไรกันดี?

ทางออกของเรื่องนี้ ให้ลองทำแบบนี้ คือเริ่มจากตัวสัญญา ให้ระบุข้อตกลงว่าหากเจ้าของกู้เงินไม่ผ่าน โดยมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรจากธนาคารมายืนยัน ขอให้สัญญาฉบับนั้นสิ้นสุดลง แล้วก็เกิดปัญหาต่อมาว่า สัญญาแบบนี้ผู้รับเหมาที่ไหนเขาจะเอา เขาดูเสียเปรียบเทียบเรามากเลยทีเดียว ขั้นตอนนี้ให้แก้ไขโดนการตกลงกับผู้รับเหมาในเรื่องเงินมัดจำ ซึ่งปกติคิดเป็น% จากค่าก่อสร้าง(ราว 20%) ซึ่งเป็นจำนวนเงินค่อนข้างสูง ให้เปลี่ยนเป็นเงินจองการจ้างเหมา ทำเป็นบันทึกข้อความตกลงกันไว้แค่สองฝ่าย(ไม่ต้องแจ้งธนาคาร แล้วเงินจองนี้ยอมให้ผู้รับเหมายึดไปได้หากกู้ธนาคารไม่ผ่าน ถ้าหากผ่านก็จะใช้เป็นส่วนลดในค่าก่อสร้างต่อไป(เหมือนเงินจองบ้านจัดสรร) แบบนี้แล้ว น่าจะเป็นข้อตกลงที่เป็นเหตุเป็นผล ผู้รับเหมาก็น่าจะโอเค เพราะอย่างไรเสีย ลงแรงทำสัญญาไปแล้วก็ไม่ได้เปรียบ และไม่เสียเปรียบ

วิธีการข้างต้นน่าจะช่วยให้ผู้ที่สนใจจะสร้างบ้าน ผู้ที่มีความสนใจจะมีบ้านของตัวเองในอนาคตทั้งหลายได้สบายใจที่ได้แก้ไขปัญหาในส่วนนี้ไปได้ ทั้งนี้การทำสัญญาตกลงกับผู้รับเหมาในลักษณะนี้ ก็ควรมีการพูดคุยกันด้วยเหตุผล และความจำเป็น คาดว่าผู้รับเหมาที่มีจรรยาบรรณทั้งหลายจะเข้าใจ และไม่พยายามหาประโยชน์จากปัญหาของท่านในจุดนี้ ขอให้โชคดี

ให้มืออาชีพช่วยคุณ

ติดต่อรับคำปรึกษาหรือ ติดตามข้อมูลที่มีประโยชน์จาก FIRM


Leave a Reply