อัตราการจัดเจ็บภาษีที่ดินและสิ่งก่อสร้าง

อสังหาริมทรัพย์ คือ สินทรัพย์ที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เช่น บ้านและที่ดิน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการและอยากได้มาครอบครองด้วยกันทั้งสิ้น เพราะสิ่งที่แสดงถึงความมั่นคงในชีวิต เป็นสถานที่ที่เราจะอยู่อาศัยจนตราบชั่วชีวิตของเรา อีกทั้งยังสามารถถ่ายทอดให้แก่ลูกหลาน รวมถึงคนที่เรารักได้ ซึ่งเราคงทราบกันอยู่แล้วว่าการมีบ้านหรือที่ดินจะต้องมีการเสียค่าใช้จ่ายในส่วนของภาษีด้วย โดยก่อนหน้านี้จะมีกฎหมายภาษีโรงเรือนและที่ดิน ที่ผู้ครอบครองบ้านและที่ดินจะต้องเสียอัตราภาษีในแต่ละปี จนถึงปัจจุบันได้ยกเลิกกฎหมายภาษีโรงเรือน และออกกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างขึ้นมาแทน โดยกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ร่างขึ้นมาใหม่นี้ มีผลบังคับใช้จริงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 โดยสามารถชำระภาษีได้ในเดือนสิงหาคม 2563

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เป็นภาษีใหม่ที่มาแทนภาษีโรงเรือนและที่ดิน โดยอัตราการเรียกเก็บภาษีนี้ก็จะมีการแบ่งรายละเอียดของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้คือ

1. ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม

เป็นที่ดินที่ใช้ทำนา ทำสวน เลี้ยงสัตว์ และอื่นๆ ตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยร่วมกันประกาศกำหนด โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • ที่ดินมูลค่าไม่เกิน 75 ล้านบาท อัตราภาษี 0.01% ของฐานภาษี
  • ที่ดินมูลค่าตั้งแต่ 75 ถึง 100 ล้านบาท อัตราภาษี 0.03% ของฐานภาษี
  • ที่ดินมูลค่าตั้งแต่ 100 ถึง 500 ล้านบาท อัตราภาษี 0.05% ของฐานภาษี
  • ที่ดินมูลค่าตั้งแต่ 500 ถึง 1,000 ล้านบาท อัตราภาษี 0.07% ของฐานภาษี
  • ที่ดินมูลค่าตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษี 0.1% ของฐานภาษี

*ที่ดินมีอัตราเพดานเรียกเก็บภาษีสูงสุดไม่เกิน 0.15% ของฐานภาษี

*บุคคลธรรมดายกเว้น องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่เกิน 50 ล้านบาท

2. ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย มีรายละเอียดการจัดเก็บอัตราภาษี ดังนี้

กรณีที่ 1 เป็นเจ้าของเฉพาะบ้านหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างเดียว (หลังหลัก)

  • ที่ดินมูลค่าไม่เกิน 10 ล้านบาท ยกเว้นภาษี
  • ที่ดินมูลค่าตั้งแต่ 10 ถึง 50 ล้านบาท อัตราภาษี 0.02% ของฐานภาษี
  • ที่ดินมูลค่าตั้งแต่ 50 ถึง 75 ล้านบาท อัตราภาษี 0.03% ของฐานภาษี
  • ที่ดินมูลค่าตั้งแต่ 75 ถึง 100 ล้านบาท อัตราภาษี 0.05% ของฐานภาษี
  • ที่ดินมูลค่าตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษี 0.1% ของฐานภาษี

กรณีที่ 2 เป็นเจ้าของทั้งสิ่งปลูกสร้างและที่ดิน (หลังหลัก)

  • ที่ดินมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท ยกเว้นภาษี
  • ที่ดินมูลค่าตั้งแต่ 50 ถึง 75 ล้านบาท อัตราภาษี 0.03% ของฐานภาษี
  • ที่ดินมูลค่าตั้งแต่ 75 ถึง 100 ล้านบาท อัตราภาษี 0.05% ของฐานภาษี
  • ที่ดินมูลค่าตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษี 0.1% ของฐานภาษี

กรณีที่ 3 บ้านหลังอื่น

  • ที่ดินมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท อัตราภาษี 0.02% ของฐานภาษี
  • ที่ดินมูลค่าตั้งแต่ 50 ถึง 75 ล้านบาท อัตราภาษี 0.03% ของฐานภาษี
  • ที่ดินมูลค่าตั้งแต่ 75 ถึง 100 ล้านบาท เสียอัตราภาษี 0.05% ของฐานภาษี
  • ที่ดินมูลค่าตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป เสียอัตราภาษี 0.1% ของฐานภาษี

กรณีที่ 4 คอนโดมิเนียม

  • ในกรณีที่บางคนมีคอนโดฯ หลายห้อง จะต้องไปดูสัญญาการจดทะเบียน ว่าเป็นห้องอยู่อาศัย หรือห้องอื่นๆ  โดยหากเป็นห้องอื่นๆ จะต้องมีการจ่ายภาษีตามอัตราที่กำหนด ส่วนถ้าหากมีคอนโดฯ เพื่อปล่อยเช่า จะต้องมีการจ่ายภาษีมากกว่าบ้านหลังหลักตั้งแต่ 0.03% ของฐานภาษีเป็นต้นไป

*ที่ดินมีอัตราเพดานของการเรียกเก็บภาษีสูงสุดไม่เกิน 0.3% ของฐานภาษี

3. ที่ดินเพื่อพาณิชยกรรม

ที่ดินลักษณะนี้ เช่น ร้านค้าโชว์ห่วย, ปั๊มน้ำมัน, อพาร์ทเมนต์, บ้านและคอนโดฯ ที่ปล่อยเช่า เป็นต้น โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • ที่ดินมูลค่าตั้งแต่ 10 ถึง 50 ล้านบาท เสียอัตราภาษี 0.3% ของฐานภาษี
  • ที่ดินมูลค่าตั้งแต่ 50 ถึง 200 ล้านบาท เสียอัตราภาษี 0.4% ของฐานภาษี
  • ที่ดินมูลค่าตั้งแต่ 200 ถึง 1,000 ล้านบาท เสียอัตราภาษี 0.5% ของฐานภาษี
  • ที่ดินมูลค่าตั้งแต่ 1,000 ถึง 5,000 ล้านบาท เสียอัตราภาษี 0.6% ของฐานภาษี
  • ที่ดินมูลค่าตั้งแต่ 5,000 ล้านบาทขึ้นไป เสียอัตราภาษี 0.7% ของฐานภาษี

4. ที่ดินรกร้างว่างเปล่า

กรณีที่ 1 ที่ดินว่างเปล่า แต่มีการทำประโยชน์บนที่ดิน โดยไม่ปล่อยให้รกร้าง มีรายละเอียดดังนี้

  • ที่ดินมูลค่าตั้งแต่ 10 ถึง 50 ล้านบาท เสียอัตราภาษี 0.3% ของฐานภาษี
  • ที่ดินมูลค่าตั้งแต่ 50 ถึง 200 ล้านบาท เสียอัตราภาษี 0.4% ของฐานภาษี
  • ที่ดินมูลค่าตั้งแต่ 200 ถึง 1,000 ล้านบาท เสียอัตราภาษี 0.5% ของฐานภาษี
  • ที่ดินมูลค่าตั้งแต่ 1,000 ถึง 5,000 ล้านบาท เสียอัตราภาษี 0.6% ของฐานภาษี
  • ที่ดินมูลค่าตั้งแต่ 5,000 ล้านบาทขึ้นไป เสียอัตราภาษี 0.7% ของฐานภาษี

*ที่ดินมีอัตราเพดานการเรียกเก็บภาษีสูงสุดทั้งหมดไม่เกิน 1.2%  ของฐานภาษี

กรณีที่ 2 ที่ดินรกร้างว่างเปล่า ปล่อยร้าง โดยไม่มีการทำประโยชน์

  • มีอัตราการเสียภาษีเพิ่มขึ้น 0.3% ทุกๆ 3 ปี

*ที่ดินมีอัตราเพดานการเรียกเก็บภาษีสูงสุดไม่เกิน 3% ของฐานภาษี

อัตราการเรียกเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่นี้ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด หากศึกษา เรียนรู้ วิธีการคำนวณอัตราของภาษีแล้ว ก็จะทำให้เราสามารถทำประโยชน์บนพื้นที่ของเราให้คุ้มค่าที่สุดได้ อีกทั้งเมื่อเข้าใจหลักการจริงๆ แล้วยังสามารถจัดการบริหารที่ดินเพื่อใช้ในการลดอัตราการเรียกเก็บภาษีได้อีกด้วย

ให้มืออาชีพช่วยคุณ

ติดต่อรับคำปรึกษาหรือ ติดตามข้อมูลที่มีประโยชน์จาก FIRM


Leave a Reply