![](https://firm.co.th/wp-content/uploads/2024/03/49948837_609783666122570_4497690989321781248_n-1.jpg)
“บ้าน” เป็นทรัพย์สินที่จะอยู่กับเราไปทั้งชีวิต ราคาขายโดยทั่วไปก็ไม่ต่ำกว่า 7 หลัก การซื้อบ้านจึงจำเป็นต้องมีการเลือกสรรที่ดี ปัจจุบันการโครงการบ้าน จัดสรรที่สร้างบ้านสำเร็จรูปขาย แบบเดินถือกระเป๋าเสื้อผ้า 1 ใบ เดินเข้าไป พร้อมอยู่ได้ทันทีนั้น มีมากมายหลากหลายโครงการ หลากหลายแบรนด์ จึง เกิดการตัดสินใจที่ยากสำหรับว่าที่เจ้าของบ้านขึ้นว่าจะเลือกบ้านโครงการ ไหนดี คิดไปคิดมาชักปวดหัว สับสน อย่ากระนั้นเลย โปรดหยุดความสับสน ของท่านไว้เพียงเท่านั้น เพราะวันนี้เรามีแนวทางการเปรียบเทียบข้อมูล การ ตัดสินใจเลือกบ้านสักหลังที่เหมาะสมกับท่านและครอบครัว มานำเสนอกัน แบบจัดเต็ม ให้ความสงสัยของท่านได้กระจ่างแล้ว ไปดูกันเลย
1. สไตล์บ้าน
ดูว่าแบบบ้าน ฟังก์ชั่นการใช้งานตอบโจทย์กับการอยู่อาศัยของเราหรือไม่ สไตล์ของบ้านตรงใจของเราหรือเปล่า เท่ห์ โดดเด่น สวยงาม ถูกใจเราไหม อย่าลืมว่าเราต้องเจอหน้ามันทุกวัน เราชอบ และมันสวยถูกใจ เราก็จะมี ความสุขที่ได้ชื่นชมมันทุกวัน จริงไหมครับ?
![](https://firm.co.th/wp-content/uploads/2024/03/49436010_609783639455906_2039598467570991104_n.jpg)
2. ขนาดพื้นที่ใช้สอย
ใหญ่ เล็ก หรือเหมาะสมพอดี นั่นขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าของบ้าน และจำนวนผู้อยู่อาศัย เอาที่พอดีกับสมาชิกในบ้าน หรือพอดีกับรูปแบบการ ใช้ชีวิต ไม่เล็กจนคับแคบ ไม่ใหญ่จนดูแลไม่ทั่วถึง เอาแค่พอดีๆ ก็พอ เพราะ ส่วนนี้มันมีส่วนพัวพันกับราคาอยู่ด้วยครับ
![](https://firm.co.th/wp-content/uploads/2024/03/49567322_609783629455907_4766812029476405248_n.jpg)
3. ขนาดที่ดิน
หลายคนอาจสับสน ระหว่างพื้นที่ใช้สอย กับขนาดที่ดิน ขอเรียนอย่างนี้ครับ ว่า พื้นที่ใช้สอยก็คือ พื้นที่ภายในตัวบ้านทั้งหมด ส่วนตัวขนาดที่ดินก็คือ พื้นที่ที่ปรากฏในโฉนดนั่นเองครับ การเลือกซื้อขนาดที่ดินที่เหมาะสม ให้ดู จากความต้องการของผู้อยู่อาศัยเป็นหลักว่า ต้องการพื้นที่ข้างบ้าน หน้าบ้าน หลังบ้านใช้ทำอะไร มากน้อยแค่ไหน แล้วก็ดูเผื่ออนาคต หากอยากต่อเติม ด้วยครับ แต่ก็เช่นเดิม แนะนำแบบที่พอดี และเหมาะสม เพราะเขาคิดราคา ขายเป็นตารางวากันเลยนะครับ
![](https://firm.co.th/wp-content/uploads/2024/03/49380230_609783676122569_6789459463720927232_n.jpg)
4. ทำเล
เรื่องทำเลก็สำคัญไม่แพ้กัน เบื้องต้นอาจเลือกทำเลที่ใกล้ๆ กับที่อยู่เดิม เพื่อ ความคุ้นชินในเรื่องเส้นทาง และสถานที่สำคัญต่างๆ หรืออาจพิจารณาเพิ่ม เรื่องที่ทำงานด้วย เพื่อที่ว่าสะดวกในการเดินทางไปกลับบ้าน และประหยัด ค่าเดินทางด้วย เรื่องราคาของแต่ละทำเลก็ต่างกันอย่างแน่นอน ตัวแปร สำคัญที่เอามาคิดราคาก็คือความสะดวกสบายในการเดินทางไปสถานที่ ต่างๆ และเรื่องของความใกล้ย่านใจกลางเมือง ใกล้ย่านสำคัญทาง เศรษฐกิจ หรือเป็นพื้นที่ๆ มีแผนการพัฒนาเศรษฐกิจ และการคมนาคม นั่นเอง
![](https://firm.co.th/wp-content/uploads/2024/03/49371704_609783686122568_1252552281878953984_n.jpg)
5. ตำแหน่งที่ตั้ง ทิศทางหน้าบ้าน
ในส่วนนี้ก็มีความสำคัญไม่น้อย เกี่ยวพันกับในเรื่องของความหนาแน่นของ ประชากร และจำนวนของบ้านในโครงการด้วย กล่าวคือหากเป็นหมู่บ้าน ขนาดใหญ่ แล้วตำแหน่งบ้านของเราไปอยู่ท้ายหมู่บ้านพอดี การเดินทาง เข้า-ออกบ้าน ก็ย่อมไม่สะดวก ไหนจะเรื่องการเป็นจุดอับสายตา และเรื่อง ความปลอดภัยอีกด้วย ส่วนของทิศทางบ้านก็จะส่งผลในเรื่องความสบายใน การอยู่อาศัย เช่น เป็นทิศทางรับลม ทิศทางรับแดด เป็นต้น บ้านจะร้อน หรือ เย็นสบายนี่คือจุดสำคัญเลยทีเดียว ในส่วนนี้หากเพิ่มความสบายใจไปอีกนิด อาจจะดูเรื่องของฮวงจุ้ยประกอบ ตามความเชื่อของแต่ละบุคคล ก็ไม่ใช่เรื่อง เสียหายอะไร
![](https://firm.co.th/wp-content/uploads/2024/03/49614717_609783709455899_4061082983585546240_n.jpg)
6. ราคา และอนาคต
ค่อนข้างจะเป็นพระเอก เพราะหากข้อนี้ไม่ผ่าน ข้ออื่นๆ ก็คงไม่ต้องพูดถึง ส่วนนี้ขอให้เตรียมตัววางแผนกันให้ดี จะเก็บเงินซื้อด้วยตัวเอง หรือจะกู้ ธนาคารก็ต้องเตรียมตัวกันให้ถูกต้อง เหมาะสม แล้วเลือกราคาเอาที่พอ เหมาะพอดีกับตัวเอง ไม่ทำให้ตัวเองลำบากมากนัก ซื้อบ้านมาทั้งทีจะกลาย เป็นพวกอยู่บ้านไม่สุข เพราะต้องไปหาเงินมาผ่อนบ้านกันหัวหมุนเอาได้ นอกจากข้างต้นแล้ว อีกส่วนที่อยากให้พิจารณาเพิ่มเติม นั่นคือ อนาคตราคา ของบ้านว่ามีโอกาสขึ้นมากน้อยเพียงใด เผื่อว่าอนาคตอยากขาย เพื่อซื้อ ใหม่จะได้มีกำไร ไม่ขาดทุน
![](https://firm.co.th/wp-content/uploads/2024/03/49937851_609783736122563_6814654171375992832_n.jpg)
7. แบรนด์
แบรนด์บ้าน บริษัทเจ้าของโครงการก็เป็นอีกหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ควร พิจารณา แต่ละแบรนด์มีจุดขาย จุดเด่น จุดด้อยต่างกัน ไม่ว่าจะเรื่องราคา สไตล์บ้าน ส่วนกลาง ส่วนลด ของแถม การดูแลหลังการขาย ฯลฯ ดังนั้นให้ เลือกแบรนด์ที่ตอบโจทย์ชีวิตเราให้มากที่สุด เราจะได้มีความสุขจากการ ดูแลในแบบของเขานะครับ
![](https://firm.co.th/wp-content/uploads/2024/03/49256477_609783749455895_6658452288199196672_n.jpg)
8. วัสดุที่ใช้
เวลาจะซื้อบ้าน โครงการมักจะแนบสเปควัสดุมาให้ หรือตอนเราไปเดินดู บ้านตัวอย่าง ก็ให้ดูวัสดุที่เขาเลือกใช้ ว่ามีคุณภาพ มีมาตรฐานดีหรือไม่ เป็น ที่นิยมในตลาดหรือเปล่า เป็นวัสดุเกรดไหน ราคาเป็นอย่างไร หากต้องซ่อม บำรุง จะมีอะไหล่หาซื้อได้ง่ายไหม
![](https://firm.co.th/wp-content/uploads/2024/03/49561051_609783769455893_7997026850847064064_n.jpg)
9. ส่วนกลาง
สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งสวน สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องสมุด คาเฟ่ ฯลฯ รวมถึงความกว้างถนน ระดับความสูงโครงการ การระบายน้ำ หรือใน เรื่องของการรักษาความปลอดภัย เหล่านี้เหมาะสมกับคุณภาพชีวิตที่เรา ต้องการหรือไม่ น้อยเกินไปไม่คุ้มค่า หรือมากเกินไป จนเสียดายค่าส่วน กลาง ซึ่งส่วนนี้จะเกี่ยวข้องกับเรื่องของจำนวนบ้านในโครงการอีกแล้ว เนื่องจากหากมีจำนวนบ้านเยอะ การจัดสรรกันเพื่อใช้สอยพื้นที่ส่วนกลางก็ ยิ่งมีความวุ่นวายเพิ่มขึ้นด้วย
![](https://firm.co.th/wp-content/uploads/2024/03/49739355_609783816122555_2378050119653130240_n.jpg)
10. สภาพพร้อมอยู่อาศัย
สุดท้ายก็ให้ดูสภาพโครงการโดยรวม อนาคตว่าจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ คน สนใจเยอะหรือไม่ ยิ่งโครงการมีความคืบหน้าที่ดี ก่อสร้างเร็ว ปิดโครงการ ได้เร็วเท่าไหร่ ชีวิตความเป็นอยู่ของเราก็จะยิ่งสงบสุขมากขึ้นเท่านั้น ไม่ต้อง มาหลอน เพราะต้องเดินผ่านบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จ เพราะไม่มีคนซื้อ บริษัท จึงต้องไปพัฒนาโครงการอื่นที่มีคนสนใจเยอะกว่า หรือปัญหารบกวนการอยู่ อาศัย เสียงดังรบกวนจากงานก่อสร้าง และความไม่ปลอดภัยต่างๆ ที่อาจ เกิดขึ้นระหว่างมีการก่อสร้าง เป็นต้น
![](https://firm.co.th/wp-content/uploads/2024/03/49435351_609783826122554_1759177583208955904_n.jpg)
ขอให้คุณว่าที่เจ้าของบ้านลองไล่เรียงทีละข้อ ตอบคำถามตัวเองให้ได้ว่าเราต้องการบ้านที่เน้น หรือ เด่นด้านไหน ให้เวลากับขั้นตอนนี้สักนิด ศึกษาหาข้อมูล เปรียบเทียบ และ ค่อยๆ กรองโครงการทีละขั้นๆ ให้ละเอียดขึ้นเรื่อยๆ ให้เหลือโครงการที่ เหมาะสมกับเราจริงๆ จากนั้นจึงตัดสินใจไปซื้อ เพื่อให้ได้บ้านที่เหมาะสมกับ เราที่สุดในทุกมิติ อยู่แล้วสบายกาย สบายใจ ครอบครัวมีความสุข และที่สำคัญ ก็คือไม่ต้องเสียเงินจองบ้านไปฟรีๆ กับบ้านที่ไม่ได้เหมาะสมกับเราอีก ด้วย
ปล. ซื้อบ้านแล้วต้องตรวจรับบ้าน ไปดูบทความดีๆ รวบรวมขั้นตอน และวิธี ตรวจบ้านด้วยตนเองจากเรากันได้เลย
บทความล่าสุด
8 ชนิดไม้ดอกให้ร่มเงา
...อ่านเลย คลิกเหล็ก H beam – I beam – Wide flange เหมาะกันงานประเภทไหน
...อ่านเลย คลิกความสำคัญของค่าปรับที่ใช้ในงานก่อสร้าง
...อ่านเลย คลิกการเลือกปั๊มน้ำที่ถูกวิธี ส่งผลดีทั่วทั้งบ้าน
...อ่านเลย คลิกข้อกำหนดของแบบบ้านที่ต้องมีลายเซ็นของวิศวกรและสถาปนิก
...อ่านเลย คลิกความแตกต่างทางการใช้งานของ กาวโพลียูรีเทน และซิลิโคน
...อ่านเลย คลิกฉนวนกันความร้อนของบ้านแต่ละประเภท
...อ่านเลย คลิกแยกสัดส่วนห้องน้ำ โซนแห้ง-โซนเปียก
...อ่านเลย คลิก